1. ผู้เข้ารับการอบรมที่ประสงค์เข้ารับการอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ต้องเป็นผู้ที่มีวินัยต่อการพัฒนาตนเอง มีความตั้งใจจริง ความซื่อสัตย์ในการเข้ารับการอบรมในแต่ละหลักสูตร และพร้อมจะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ และให้ความร่วมมือกับกิจกรรมต่างๆ กับ บริษัท ศูนย์ฝึกอบรมทิพย จำกัด (“หน่วยงานจัดอบรมหลักสูตรภายใต้การกำกับดูแลของ คปภ.”) และ/หรือ บริษัท สกิลเลน เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน) (“สถาบันจัดอบรมหลักสูตรภายใต้การกำกับดูแลของศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน” และ/หรือ “ผู้ให้บริการระบบฯ”) (รวมเรียกว่า “ศูนย์ฝึกอบรมฯ”) อย่างเคร่งครัด (อาทิ การยืนยันตัวตนของผู้เข้ารับการอบรม การติดตามความต่อเนื่องในการอบรม การตรวจสอบตัวตนระหว่างอบรม การทำแบบทดสอบ การทำแบบประเมินการอบรม)
2. ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องเป็นผู้มีรายชื่อและมีสิทธิเข้ารับการอบรม โดยผู้เข้ารับการอบรมต้องดำเนินการยืนยันตัวตน และปฏิบัติตามเงื่อนไขในขั้นตอนการติดตามความต่อเนื่องในการอบรม รวมถึงปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) และระเบียบอื่นๆ ตามที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ แจ้งให้ทราบอย่างเคร่งครัด
3. ผู้เข้ารับการอบรมตกลงและให้คำรับรองว่าผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้มีคุณสมบัติในการเข้ารับการอบรมในแต่ละหลักสูตรจริง และต้องเข้ารับการอบรมด้วยตนเองตลอดระยะเวลาการอบรม โดยรับรองว่าการอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) นี้ไม่สามารถให้บุคคลอื่นเข้ารับการหรือมีส่วนร่วมในการอบรมในหลักสูตรใดๆ ได้ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตาม ผู้เข้ารับการอบรมรับทราบและตกลงว่า (ก) การใช้อีเมล์ (e-mail) สำหรับการสมัครและ/หรือการเข้ารับการอบรมกับศูนย์ฝึกอบรมฯ จะต้องเป็นอีเมล์ (e-mail) ของตนเองและเป็นเพียงอีเมล์ (e-mail) เดียว โดยไม่สามารถนำอีเมล์ (e-mail) ดังกล่าวไปใช้หรือถูกนำไปใช้ร่วมกับผู้อื่นในการสมัครและ/หรือเข้ารับการอบรมได้ (ข) การให้ผู้อื่นใช้ “รหัสผู้ใช้ (User ID) และรหัสผ่าน (Password)” ของตัวเอง หรือใช้ “รหัสผู้ใช้ (User ID) และรหัสผ่าน (Password)” ของผู้อื่น เพื่อเข้าระบบ (Login) ไม่ว่ากรณีใด จะได้รับการยกเลิกสิทธิ์เข้ารับการอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ทุกหลักสูตร หากพบว่ามีผู้เข้ารับการอบรมไม่มีคุณสมบัติ หรือไม่เข้ารับการอบรมด้วยตนเอง หรือมีบุคคลอื่นมาอบรมแทนหรือมีส่วนร่วมในการอบรม ทางศูนย์ฝึกอบรมฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณายกเลิกความให้เห็นชอบในการเข้ารับการอบรมในหลักสูตรใดๆ และตัดสิทธิให้ไม่ผ่านการเข้าอบรม
4. ผู้เข้ารับการอบรมตกลงจะเข้ารับการอบรมตามวันที่และระยะเวลาการอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ กำหนด
5. ในกรณีที่ผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับการลดจำนวนชั่วโมงการอบรมภายใต้ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (“คปภ.”) กำหนด ผู้รับเข้ารับการอบรมดังกล่าวตกลงดำเนินการและยอมรับเงื่อนไขดังนี้ (ก) จัดส่งหลักฐานประเภทต่างๆ และภายในระยะเวลาตามที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ กำหนด เพื่อยืนยันคุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรมว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับการลดจำนวนชั่วโมงการอบรม โดยการแนบหลักฐานผ่านช่องทางการสมัครการอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ กำหนด ทั้งนี้ ศูนย์ฝึกอบรมฯ มีสิทธิในการขอให้ผู้เข้ารับการอบรมจัดส่งเอกสารหรือขอให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลัง (ข) รับรองว่าหลักฐานและข้อมูลใดๆ ที่แจ้งให้กับศูนย์ฝึกอบรมเป็นจริงและถูกต้อง (ค) หากปรากฎว่าผู้เข้ารับการอบรมไม่เป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับการลดจำนวนชั่วโมงการอบรม และ/หรือจัดส่งหลักฐานหรือข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง และ/หรือ จัดส่งเอกสารหลังจากระยะเวลาที่ศูนย์อบรมฯ กำหนด ผู้เข้ารับการอบรมอาจถูกพิจารณาไม่ได้รับสิทธิการลดจำนวนชั่วโมงการอบรม หรือไม่ได้เข้ารับการอบรมในหลักสูตร หรือถูกตัดสิทธิในการผ่านการเข้าอบรม (แล้วแต่กรณี) ตามที่ศูนย์ฝึกอบรมจะแจ้งให้ทราบ
6. ผู้เข้ารับการอบรมตกลงและให้คำรับรองว่าข้อมูลต่างๆ ที่ได้แจ้งศูนย์ฝึกอบรมฯ หรือผู้ให้บริการเป็นข้อมูลที่แท้จริง ถูกต้องและครบถ้วนเป็นปัจจุบัน และไม่มีข้อมูลและเอกสารใดๆ ที่ผู้เข้ารับการอบรมปกปิดอันควรที่จะแจ้งหรือเป็นความเท็จ และตกลงที่จะส่งมอบเอกสารและข้อมูลใดๆ เพื่อให้ทางศูนย์ฝึกอบรมฯ ตรวจสอบเมื่อได้รับการร้องขอ หากปรากฏว่าข้อมูลของผู้เข้ารับการอบรมเปลี่ยนแปลงไปจากที่ได้แจ้งไว้กับศูนย์ฝึกอบรมฯ ผู้เข้ารับการอบรมตกลงที่จะแจ้งให้ศูนย์ฝึกอบรมฯ ทราบโดยทันที โดยหากปรากฏว่าข้อมูลใดๆ ของผู้เข้ารับการอบรม ไม่จริงหรือเท็จ หรือปกปิดข้อมูลใดที่ควรจะต้องแจ้ง หรือไม่ดำเนินการแจ้งหรือแจ้งล่าช้าในกรณีที่ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลง ทางศูนย์ฝึกอบรมฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณายกเลิกความให้เห็นชอบในการเข้ารับการอบรมในหลักสูตร และตัดสิทธิในการผ่านการเข้าอบรม
7. ผู้เข้ารับการอบรมตกลงว่าจะต้องจัดเตรียมสถานที่ ระยะเวลา และอุปกรณ์ใดๆ ให้พร้อมสำหรับการอบรม และเตรียมตนเองให้พร้อม โดยจะต้องงดกิจกรรมใดๆ ในขณะเข้าอบรม อาทิ การงดใช้อุปกรณ์สื่อสารในขณะเข้ารับการอบรม (อาทิ โทรศัพท์ Tablet คอมพิวเตอร์อื่น) และงดใช้อุปกรณ์ที่ใช้อบรมในการทำกิจการอื่นๆ ในขณะการอบรม ผู้เข้ารับการอบรมรับทราบและตกลงว่าในระหว่างการอบรมกับทางศูนย์ฝึกอบรมฯ ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องอยู่และใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การอบรมที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) ในพื้นที่ราชอาณาจักรไทยเท่านั้น โดยหากปรากฏว่าผู้เข้ารับการอบรมไม่ปฏิบัติตามวิธีการดังกล่าว ผู้เข้ารับการอบรมอาจจะไม่มีสิทธิเข้ารับการอบรมในหลักสูตรดังกล่าว และไม่มีสิทธิในการขอรับเงินคืนค่าธรรมเนียมการอบรมและเรียกร้องใดๆ จากศูนย์ฝึกอบรมฯ
8. ผู้เข้ารับการอบรมตกลงและรับทราบว่า จะต้องถ่ายรูปบัตรประชาชนตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุ ณ วันที่เริ่มการอบรม คู่กับการถ่ายใบหน้าจริงของผู้เข้าการอบรม ตามวิธีการที่ระบบได้กำหนดไว้ โดยหากปรากฏว่าผู้เข้ารับการอบรมไม่ปฏิบัติตามวิธีการดังกล่าว ทางศูนย์ฝึกอบรมฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณายกเลิกความเห็นชอบในการเข้ารับการอบรมในหลักสูตร และตัดสิทธิ์ในการผ่านการเข้าอบรม
9. ผู้เข้ารับการอบรมตกลงและรับทราบว่าตนเองจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการติดตามความต่อเนื่องในการอบรมตลอดระยะเวลาการอบรมภายใต้เงื่อนไขที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ กำหนด โดยศูนย์ฝึกอบรมฯ จะมีการสุ่มการตรวจสอบการเข้าอบรม ดังเช่น (ก) การถ่ายรูปใบหน้าของผู้เข้ารับการอบรม (ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่สามารถใช้รูปภาพหรือสิ่งอื่นใดของผู้เข้ารับการอบรมแทนได้) หรือ
(ข) การตรวจภาพของบัตรประจำตัวประชาชนว่าตรงหรือไม่กับที่ลงทะเบียนไว้กับศูนย์ฝึกอบรมฯ ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องใช้เอกสารที่ราชการออกให้เท่านั้น ได้แก่ (ก) บัตรประชาชน (ข) ใบขับขี่ (ค) หรือหนังสือเดินทาง (Passport) โดยเอกสารดังกล่าวจะต้องเป็นเอกสารที่ยังไม่หมดอายุและจะต้องเป็นตัวจริงเท่านั้น โดยหากปรากฏว่าในขณะที่ผู้เข้ารับการอบรมไม่พร้อมในการปฏิบัติขั้นตอนการติดตามความต่อเนื่องในการอบรม อาทิ ผู้เข้ารับการอบรมไม่ถ่ายรูปใบหน้าตนเองหรือบัตรประชาชนตามคำแนะนำของศูนย์ฝึกอบรมฯ และทำให้ไม่ผ่านเงื่อนไขการตรวจสอบ ทางศูนย์ฝึกอบรมฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณายกเลิกความให้เห็นชอบในการเข้ารับการอบรมในหลักสูตร และตัดสิทธิ์ในการผ่านการอบรม ทั้งนี้ หากพบปัญหาหรือข้อสงสัยสำหรับขั้นตอนการติดตามความต่อเนื่องในการอบรมดังกล่าว ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องติดต่อและสอบถามกับศูนย์ฝึกอบรมฯ เพื่อรับคำแนะนำและปฏิบัติตามแนวทางดำเนินการจากศูนย์ฝึกอบรมฯ เท่านั้น
10. ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องจัดเตรียมและใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์การอบรมที่เชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet) ตลอดเวลา เพื่อพร้อมสำหรับการอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) นี้ได้ตามมาตรฐานที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ กำหนด ทั้งนี้ อุปกรณ์และเทคโนโลยีขั้นต่ำที่ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องใช้ตลอดระยะเวลาการอบรมมีดังนี้เป็นอย่างน้อย
(ก) แพลตฟอร์ม (Platform) การอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) รองรับการใช้งานผ่าน Web Browser Version ในแต่ละระบบปฏิบัติการ ดังนี้
Chrome: Minimum version: Version 88 Recommended version: Version ล่าสุด
Safari: Minimum version: Version 14 Recommended v
ersion: Version ล่าสุดChrome for mobile (android): Minimum version: Version 81 Recommended version: Version ล่าสุด
Safari for mobile (iOS): Minimum version: Version 11 Recommended version: Version ล่าสุด
(ข) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน
CPU: Minimum: Intel Premium 4 processor Recommended: Intel core i3 ขึ้นไป
Memory: Minimum: 2 GB Recommended: 4GB ขึ้นไป
(ค) ความเร็วของอินเตอร์เน็ต (Internet) ขั้นต่ำที่แนะนำ
ระดับความชัด 480p: Minimum download speed: 2Mbps Latency < 800 ms Recommended speed: 4Mbps Latency < 500 ms
ระดับความชัด 720p: Minimum download speed: 4Mbps Latency < 800 ms Recommended speed: 6Mbps Latency < 500 ms
ระดับความชัด 1080p: Minimum download speed: 6Mbps Latency < 800 ms Recommended speed: 8Mbps Latency < 500 ms
(ง) ต้องเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีกล้องติดตั้ง
(จ) ในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรือ อุปกรณ์ของผู้เข้ารับการอบรมมีข้อความแจ้งเตือนว่า “ท่านกำลังใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม กรุณาเปลี่ยน Browser” หรือ อื่นๆ ขอให้ผู้เข้ารับการอบรมปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบบ หรือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าแนะนำในทุกกรณี ทั้งนี้ หากผู้เข้ารับการอบรมไม่สามารถเข้ารับการอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ได้ อันเนื่องมาจากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรือ อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม ศูนย์ฝึกอบรมฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาไม่คืนค่าธรรมเนียมการอบรมทุกกรณี
11. ผู้เข้ารับการอบรมตกลงว่าศูนย์ฝึกอบรมฯ ไม่มีหน้าที่ในการดำเนินการแก้ไขข้อมูลของผู้เข้ารับการอบรม รวมถึงแก้ไขข้อบกพร่องหรือปัญหาการใช้บริการในอุปกรณ์การอบรมของผู้เข้ารับการอบรมที่มีสาเหตุเกิดจากความผิดและ/หรือข้อบกพร่องของระบบหรืออุปกรณ์ของผู้เข้ารับการอบรมเอง ซึ่งอาจมีคุณสมบัติหรือคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานการใช้งานระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ความขัดข้องในระหว่างการอบรมอันเกิดจากผู้เข้ารับการอบรมไม่ว่ากรณีใด ไม่สามารถใช้เป็นเหตุขอทำแบบทดสอบได้มากกว่าที่กำหนด หรือเรียกร้องให้ศูนย์ฝึกอบรมฯ ดำเนินการใดๆ
12. ผู้เข้ารับการอบรมทราบว่าการอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) นี้เป็นการอบรมผ่านบันทึกวิดีโอหรือไฟล์บันทึกการอบรมซึ่งศูนย์ฝึกอบรมได้จัดทำเป็นหลักสูตรไว้ล่วงหน้าแล้วก่อนเข้ารับการอบรม โดยในระหว่างการอบรมหลักสูตร จะมีการตรวจสอบการเข้ารับการอบรมผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ดังต่อไปนี้
(ก) การสุ่มถ่ายภาพเพื่อยืนยันตัวตนระหว่างการอบรม หากผู้เข้ารับการอบรมไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกนำออกจากระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) และต้องยืนยันตัวตนใหม่อีกครั้งก่อนเข้ารับการอบรม
(ข) การสุ่มให้กดยืนยันความสนใจระหว่างการอบรม หากผู้เข้ารับการอบรมไม่สามารถยืนยันความสนใจได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) จะย้อนเวลากลับไปยังช่วงก่อนหน้า และต้องเข้ารับการอบรมอีกครั้งในเนื้อหาที่ไม่ได้รับการยืนยันความสนใจ
(ค) การอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ไม่สามารถขยายระยะเวลาการอบรมได้ในทุกกรณี หากผู้เข้ารับการอบรมไม่สามารถยืนยันตัวตนและยืนยันความสนใจได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ (ก) และ (ข) อันเป็นผลให้ไม่สามารถเข้ารับการอบรมจนจบหลักสูตรได้ภายในระยะเวลาการอบรม ศูนย์ฝึกอบรมฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาไม่คืนค่าธรรมเนียมการอบรมทุกกรณี
13. ผู้เข้ารับการอบรมรับทราบว่าตนเองสามารถส่งคำถาม ข้อสงสัย หรือบทสนทนากับวิทยากรหรือศูนย์ฝึกอบรมฯ ในขณะอบรมได้ (Discussion Board) ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมตกลงว่าจะต้องใช้คำและวาจาที่สุภาพ โดยไม่เป็นคำหยาบ คำหมิ่นประมาท หรือละเมิดสิทธิทางกฎหมายกับบุคคลอื่น และจะสอบถามหรือสนทนาที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่อบรมเท่านั้น ในกรณีที่ผู้เข้ารับการอบรมไม่ปฏิบัติตามวรรคต้น ศูนย์ฝึกอบรมฯ มีสิทธิที่จะพิจารณาลบข้อความดังกล่าว (ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน) ได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบ
14. การทำแบบทดสอบทุกประเภท ไม่มีการเฉลย ผู้เข้ารับการอบรมสามารถค้นหาทุกคำตอบด้วยตนเอง โดยการศึกษาทบทวนเนื้อหาบทเรียนได้ตลอดช่วงระยะเวลาการอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) โดยเกณฑ์การผ่านการทดสอบจะเป็นไปตามที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ กำหนดไว้ ดังต่อไปนี้
(ก) สำหรับหลักสูตรอบรมวิชาชีพประกันภัยภายใต้การกำกับดูแลของ คปภ. ผู้เข้ารับการอบรมต้องมีผลคะแนนจากการทำแบบทดสอบหลังการอบรมได้ถูกต้องไม่น้อยกว่า 60% จึงจะได้รับการพิจารณาอนุมัติจบหลักสูตร โดยผู้เข้ารับการอบรมสามารถทำแบบทดสอบหลังเรียนได้ไม่เกิน 5 ครั้ง
(ข) สำหรับหลักสูตรอบรมวิชาชีพการลงทุนภายใต้การกำกับดูแลของศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ด้านตลาดทุน ผู้เข้ารับการอบรมต้องมีผลคะแนนจากการทำแบบทดสอบหลังการอบรมได้ถูกต้องไม่น้อยกว่า 80% จึงจะได้รับการพิจารณาอนุมัติจบหลักสูตร โดยผู้เข้ารับการอบรมสามารถทำแบบทดสอบได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
(ค) ผู้เข้ารับการอบรมต้องศึกษาเกณฑ์การผ่านการทดสอบของแต่ละหลักสูตรด้วยตนเอง ซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าจอมุมขวาของระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ทั้งนี้ ผลการทดสอบจากการทำแบบทดสอบหลังการอบรมทุกหลักสูตรจะไม่สามารถแยกส่วนเพื่อนำส่งเข้าสู่ระบบได้ ผู้เข้ารับการอบรมต้องทำแบบทดสอบและส่งผลการทดสอบในคราวเดียว โดยจะได้รับการพิจารณาการจบหลักสูตรเป็นผล “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” พร้อมใบประกาศนียบัตรทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Certificate)
15. ศูนย์ฝึกอบรมฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเพิกถอนผู้เข้ารับการอบรมที่มีพฤติกรรมไม่สุจริตหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขใดๆ ออกจากระบบจัดอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ของศูนย์ฝึกอบรมฯ ทันทีที่พบ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบ
16. ศูนย์ฝึกอบรมฯ สงวนสิทธิ์ในกระบวนการจัดอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ทุกขั้นตอน อาทิ การพิจารณาอนุมัติสิทธิ์ให้เข้ารับการอบรม การระงับ หรือยกเลิกการให้สิทธิ์เข้ารับการอบรม การพิจารณาผลการทดสอบ การพิจารณารับรองการผ่านแต่ละหลักสูตร การพิจารณาอนุมัติให้หนังสือรับรอง ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ เป็นต้น โดยศูนย์ฝึกอบรมฯ ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือชี้แจงรายละเอียดเป็นรายบุคคล นอกจากนี้ ศูนย์ฝึกอบรมฯ อาจนำส่งข้อมูลและแจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวให้หน่วยงานอื่นทราบ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) หรือศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (แล้วแต่กรณี)
17. เงื่อนไขและวิธีการคืนค่าธรรมเนียมการอบรม
(ก) สาเหตุและเงื่อนไขการคืนค่าธรรมเนียมการอบรม
(1) การขอคืนค่าธรรมเนียมการอบรมในช่วงระยะเวลาก่อนถึงกำหนดเริ่มการอบรม: ในช่วงระยะเวลาก่อนถึงกำหนดเริ่มการอบรม หากผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้มีสิทธิเข้ารับการอบรมและประสงค์จะขอคืนค่าธรรมเนียมการอบรม ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องทำคำร้องขอโดยแจ้งให้ศูนย์ฝึกอบรมฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าอย่างน้อย 6 วัน ก่อนถึงกำหนดเริ่มการอบรมนั้นๆ
(2) การขอคืนค่าธรรมเนียมการอบรมในช่วงระหว่างการอบรม: ผู้เข้ารับการอบรมอาจขอคืนค่าธรรมเนียมการอบรมได้ในกรณีที่ผู้เข้ารับการอบรมไม่สามารถเข้ารับการอบรมได้ทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งมีสาเหตุอันเนื่องจากความบกพร่องหรือผิดปกติของระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) โดยต้องไม่ใช่สาเหตุที่เกิดจากความผิดและ/หรือข้อบกพร่องของผู้เข้ารับการอบรมหรือบุคคลอื่นเอง อาทิ ความบกพร่องของระบบเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ของผู้เข้ารับการอบรม ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องไม่มีประวัติการเข้ารับการอบรมหลักสูตรผ่านระบบการอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) ในสัดส่วนเกินกว่าร้อยละ 25 ของระยะเวลาหรือชั่วโมงการอบรมทั้งหมดในหลักสูตรนั้นๆ และ ผู้เข้ารับการอบรมได้ทำคำร้องขอการคืนค่าธรรมเนียมการอบรมพร้อมรายละเอียดและหลักฐานที่แสดงถึงเหตุดังกล่าวได้ครบถ้วน โดยแจ้งให้ศูนย์ฝึกอบรมฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่กำหนดการอบรมหลักสูตรนั้นๆ ได้เริ่มขึ้น
(ข) การพิจารณาคำร้องขอคืนค่าธรรมเนียมการอบรม
(1) ศูนย์ฝึกอบรมฯ ตกลงจะพิจารณาคำร้องขอคืนค่าธรรมเนียมการอบรม และตอบกลับผลพิจารณาว่าจะคืนค่าธรรมเนียมการอบรมหรือไม่โดยเร็ว ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 วันทำการ นับตั้งแต่ระยะเวลาที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ ได้รับคำร้องขอตามวิธีการ พร้อมกับข้อมูลและหลักฐานที่ถูกต้องและครบถ้วนสำหรับการพิจารณาคำร้องขอดังกล่าวจากผู้เข้ารับการอบรม
(2) ผู้เข้ารับการอบรมตกลงและรับทราบว่าในช่วงระยะเวลาการพิจารณาคำร้องขอของศูนย์ฝึกอบรมฯ ดังกล่าว ระยะเวลาการอบรมยังดำเนินต่อเนื่อง โดยไม่ถือเป็นเหตุที่จะระงับหรือหยุดระยะเวลาการอบรมของผู้เข้ารับการอบรมที่อยู่ระหว่างการรอพิจารณาการคืนค่าธรรมเนียมการอบรมได้ ดังนั้น หากปรากฏว่า ผลการพิจารณาคำร้องขอคืนค่าธรรมเนียมการอบรมออกเมื่อระยะเวลาการอบรมนั้นเสร็จสิ้นแล้วหรือทำให้ผู้เข้ารับการอบรมมีระยะเวลาอบรมน้อยลง ผู้เข้ารับการอบรมไม่มีสิทธิในการเรียกร้องใดๆ กับศูนย์ฝึกอบรมทั้งสิ้น
(ค) การคืนค่าธรรมเนียมการอบรม: กรณีที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้มีสิทธิได้รับการคืนค่าธรรมเนียมการอบรม ศูนย์ฝึกอบรมฯ จะแจ้งให้ผู้เข้ารับการอบรมดังกล่าวทราบ และจะดำเนินการคืนค่าธรรมเนียมภายใน 15 วันทำการนับตั้งแต่วันที่ได้แจ้งให้ผู้เข้ารับการอบรมทราบ โดยวิธีการคืนค่าธรรมเนียมการอบรมเช่นเดียวหรือช่องทางเดียวกับที่ผู้เข้ารับการอบรมชำระค่าธรรมเนียมการอบรมให้ศูนย์ฝึกอบรมฯ ในขณะที่ลงทะเบียนการอบรม
(ง) ข้อสงวนสิทธิ์: ศูนย์ฝึกอบรมฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาไม่คืนค่าธรรมเนียมการอบรมในทุกกรณี หากปรากฏว่าผู้เข้ารับการอบรมไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและ/หรือไม่เป็นบุคคลที่มีสิทธิในการได้รับคืนค่าธรรมเนียมการอบรมตามระเบียบที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ กำหนด รวมถึงอาจพิจารณาตัดสิทธิการเข้ารับการอบรมในหลักสูตรใดๆ หากผู้เข้ารับการอบรมมีเจตนาทุจริตหรือปลอมแปลงข้อมูลและหลักฐานในการขอคืนค่าธรรมเนียมการอบรม ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม ผู้เข้ารับการอบรมตกลงและยอมรับว่าผลการพิจารณาการคืนค่าธรรมเนียมการอบรมของศูนย์ฝึกอบรมฯ เป็นที่เด็ดขาด
18. ผู้เข้ารับการอบรมตกลงและรับทราบว่าศูนย์ฝึกอบรมฯ อาจมีการเก็บ รวบรวม เปิดเผยต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือประมวลผลข้อมูลต่างๆ ของผู้เข้ารับการอบรม โดยมีวัตถุประสงค์ดังเช่น เพื่อเป็นฐานข้อมูลลูกค้า การนำเสนอหรือเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการต่างๆ หรือเป็นช่องทางการติดต่อกับผู้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลงระบบศูนย์ฝึกอบรมฯ
19. หากผู้เข้ารับการอบรมยืนยันที่จะขอต่อใบอนุญาต ประกันภัยครั้งที่ 4 เพิ่มเติมภายหลังจากการที่ศูนย์ฝึกอบรมฯ ส่งรายชื่อเข้าระบบ คปภ. ไปแล้ว หรือ 7 วันก่อนวันเริ่มอบรม ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการดำเนินการ เพื่อนำรายชื่อเข้าสู่ระบบย้อนหลัง ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
(ก) การขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตและวินาศภัย ครั้งที่ 4 เป็นต้นไป จำนวน 30 ชั่วโมง อัตราค่าดำเนินการ 7,690 บาท
(ข) การขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตและวินาศภัย ครั้งที่ 4 เป็นต้นไป (ลดหย่อนชั่วโมงอบรม) จำนวน 15 ชั่วโมง อัตราค่าดำเนินการ 3,845 บาท
(ค) การขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและวินาศภัย ครั้งที่ 4 เป็นต้นไป จำนวน 50 ชั่วโมง อัตราค่าดำเนินการ 10,900 บาท
(ง) การขอต่ออายุใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและวินาศภัย ครั้งที่ 4 เป็นต้นไป (ลดหย่อนชั่วโมงอบรม) จำนวน 25 ชั่วโมง อัตราค่าดำเนินการ 5,450 บาท
20. หากมีข้อสงสัยหรือคำแนะนำ และการแจ้งหรือดำเนินการขอคืนค่าธรรมเนียมการอบรม โปรดติดต่อที่ cpd.info@skillLane.com เท่านั้น
วันที่แก้ไขล่าสุด: วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568